(https://img2.pic.in.th/pic/19--7--01.jpg) (https://funnytripholiday.com/blog/travel-to-italy-for-7-days/)
อิตาลีเป็นประเทศที่ครบเครื่องในการเที่ยวทั้งเรื่องประวัติศาสตร์ สถลาปัตยกรรม วัฒนธรรม และธรรมชาติที่ดั้งจมูกเดิม ไม่ว่าจะเป็นภูเขา สมุทร หรือกลุ่มเกาะก็มีให้เลือกเที่ยวได้ไม่ซ้ำ ซึ่งในครั้งพวกเราจะพาคุณไปเที่ยวอิตาลี 7 วัน (https://funnytripholiday.com/blog/travel-to-italy-for-7-days/)สไตล์สายธรรมชาติ กับการออกเดินทางสู่เทือกเขาโดโลไมต์ หนึ่งในส่วนของเทือกเขาแอลป์ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี ที่ครอบคลุมพื้นที่อย่างกเงินว้างขวาง อีกทั้งยังขึ้นชื่อเรื่องทิวทัศน์สุดอลังการ อากาศดี เหมาะกับคนที่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศ มาพักด้วยการเดินเขา หรือดื่มด่ำกับเมืองตากอากาศที่เงียบสงบ บอกได้เลยว่าถ้าหากถูกใจสายธรรมชาติ นี่คือจุดหมายที่ไม่ควรจะพลาดจริงๆ
ไปสวนโดโลไมต์ เที่ยวอิตาลี 7 วัน เที่ยวที่ไหนให้มีความผ่อนคลายดี ?
โดโลไมต์ (Dolomites) คือเทือกเขาหินปูนที่ถูกยกให้เป็นหนึ่งในทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยที่สุดในโลก ที่นี่ไม่ได้มีเพียงแค่ความสวยเพียงแต่อย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญทางธรณีวิทยา เนื่องจากว่าช่วยในการศึกษาพัฒนาของเปลือกโลก และแน่นอนว่าที่นี่ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติในปี 2009 ซึ่งสำหรับใครที่เป็นนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ เทือกเขาโดโลไมต์ในอิตาลีตอนเหนือคือตัวเลือกที่ควรจะไปให้ได้สักหนึ่งครั้งในชีวิต ส่วนจะเที่ยวอิตาลี 7 วันแล้วไปที่ไหนดี มาดูไฮไลต์สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจพวกนี้ได้เลย
สามยอดเขา (Tree Peaks of Lavaredo) - จุดเด่นที่ทุกคนต้องแวะไปเมื่อถึงโดโลไมต์ สถานที่ท่องเที่ยวภูเขาหินสามลูกเรียงหน้าแบบสวยงามในแนวตะวันออก - ตะวันตก ได้แก่ Little Peak, Big Peak และ Western Peak ที่สูงเกือบจะ 3,000 เมตร เป็นเส้นทางเดินป่ายอดนิยมในช่วงฤดูร้อน และในช่วงหน้าหนาวก็สามารถรับชมทิวทัศน์แบบหิมะปกคลุมได้ด้วย
สมุทรสาบเบรียส (Lake Braies) - สมุทรสาบที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในโดโลไมต์ น้ำใสสีเขียวมรกตที่สะท้อนภูเขาได้อย่างสวยงาม ล้อมรอบไปด้วยป่าสนและผาสูง กิจกรรมยอดนิยมของที่นี่เลยคือ การพายเรือไม้กลางสมุทรสาบในฤดูร้อน หรือนั่งพักผ่อนริมสมุทรสาบเพื่อชมความสงบของธรรมชาติ ที่นี่คุณสามารถถ่ายภาพมุมไหนก็สวยได้เหมือนโปสการ์ด
สมุทรสาบมิซูรีนา (Lake Misurina) - อีกหนึ่งสมุทรสาบโด่งดังในเทือกเขาแอลป์ ที่มีความพิเศษที่ผิวน้ำใสจนถึงสามารถสะท้อนทิวเขาได้อย่างชัดเจน ในช่วงฤดูร้อนจะมีกิจกรรมให้เลือกเล่นหลากหลาย ทั้งเดินริมสมุทรสาบ อาบแดด หรือตกปลา ส่วนในหน้าหนาวจะกระปรี้กระเปร่าไปด้วยนักเล่นสกี เพราะว่ามีอพาร์เม้นท์และร้านเช่าอุปกรณ์เปิดเรียงรายให้ใช้บริการอยู่ไม่ไกลจากที่นี่มากนัก
กลุ่มบ้านแอลป์ดิซูซี (Alpe di Suisi) - ท้องทุ่งอัลไพน์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป เป็นหลักที่เปิดกว้างที่ถูกล้อมไปด้วยเทือกเขาโดโลไมต์ ท่ามกลางธรรมชาติที่เงียบสงบ มีกลุ่มบ้านเล็กๆกระจายตัวอยู่รอบๆนักท่องเที่ยวสามารถเข้าเดินป่าตามทางธรรมชาติพวกนี้ในช่วงฤดูร้อน หรือจะมาสัมผัสหิมะในหน้าหนาวแล้วเล่นสกีก็ได้เหมือนกัน ที่นี่จะให้บรรยากาศที่สนุกกระทั่งเหมือนได้เข้าไปในฉากหนังยุโรปเลยทีเดียว
ยอดเขาเซเซดา (Seceda) - จุดชมทิวทัศน์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในพาโนรามาที่สวยที่สุดในเทือกเขาโดโลไมต์ คุณสามารถขึ้นไปชมได้ด้วยกระเช้ากระแสไฟฟ้า ซึ่งใช้เวลาไม่นาน จากข้างบนจะมองเห็นทิวทัศน์สลับขั้นของภูเขาที่มีทรงผิดตา ด้านหนึ่งเป็นผาชัน ส่วนอีกด้านหนึ่งจะเป็นเนินต้นหญ้าเขียวงามสดใส จุดนี้ยังถูกขนานนามว่า "Flame Frozen in Stone" เพราะว่ายอดเขาดูเหมือนเปลวแช่เเข็ง ซึ่งเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมที่สายธรรมชาติไม่ควรจะพลาด
เที่ยวอิตาลี 7 วัน พักได้ชิลล์ๆกับเมืองใกล้โดโลไมต์
สำหรับใครที่เริ่มวางแผนจะไปเที่ยวโดโลไมต์แบบไม่รีบร้อน แนะนำให้ลองแวะเมืองเล็กๆรอบๆเทือกเขาดู เพราะว่านอกเหนือจากจะเดินทางได้ง่ายแล้ว ยังได้สัมผัสบรรยากาศท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทั้งภูเขา วัฒนธรรม และสถลาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม ซึ่งเหมาะกับการพักเที่ยวอิตาลี 7 วันแบบสบายๆโดยมีเมืองน่าแวะดังต่อไปนี้
โบลซาโน (Bolzano)
เมืองหลวงของแคว้นไทโรลใต้ ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น "ประตูสู่โดโลไมต์" ที่มีความกระโดดเด่นเนื่องจากว่าผสมผสานวัฒนธรรมอิตาลีและเยอรมันได้อย่างลงตัว ทั้งภาษา อาหาร ไปจนถึงสโผลงปัตยกรรมตกแต่ง ใครที่ถูกใจเดินชมเมืองสวยๆต้องไม่พลาดจัตุรัสวอลคุณร์ (Piazz Walther), มหาวิหาร Bolzano Cathedral และพิพิธภัณฑ์ South Tyrol Museum of Archaeology ที่จัดแสดงมัมมี่ Ötzi มนุษย์น้ำแข็งอายุหลายพันปีอีกด้วย
คอร์ตินา ดัมเปซโซ (Cortina d'Ampezzo)
เมืองตากอากาศยอดนิยมที่ขึ้นชื่อว่าเป็น "ราชินีแห่งโดโลไมต์" โดยยิ่งไปกว่านั้นในฤดูหนาวที่นักท่องเที่ยวจากทั้งโลกต่างก็หลั่งไหลกันมาเล่นสกีและหิมะขาวมาก หัวเมืองรายล้อมไปด้วยทิวเขาสุดอลังการ มีที่พักหรูและรีสอร์ตให้เลือกพักมากมาย และที่สำคัญยังอยู่ไม่ไกลจากจุดถ่ายรูปสุดไอคอนิกอย่าง "สามยอดเขา (Tree Peaks of Lavaredo)"
ออร์ติเซ (Ortisei)
เมืองเล็กๆในหุบเขา Val Gardena ที่เหมาะกับคนรักธรรมชาติและศิลป์ ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องการแกะสลักไม้แบบดั้งเดิม และบ้านเรือนที่ตกแต่งด้วยสีพาสเทลสุดสวย บรรยากาศที่ผสมกับธรรมชาติแล้วให้ความรู้สึกเงียบสงบ แถมยังเป็นจุดเริ่มต้นในการเดินทางไปยัง "กลุ่มบ้านแอลป์ดิซูซี (Alpe di Suisi)" ท้องทุ่งบนเขาที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปอีกด้วย
บทสรุป
สำหรับการไปเที่ยวอิตาลีทางตอนเหนืออย่างโดโลไมต์ แน่นอนว่าที่นี่ย่อมให้ประสบการณ์การเที่ยวที่แตกไม่เหมือนกับการเดินเที่ยวอิตาลีตามเมืองหลักแน่ เนื่องจากว่าที่นี่เหมาะสำหรับผู้ที่อยากลองทำอะไรใหม่ๆหรือเปิดประสบการณ์เที่ยวแบบดั้งเดิมในธรรมชาติ ไม่ว่าจะมาเที่ยวในช่วงฤดูไหนก็ได้บรรยากาศธรรมชาติที่ดีที่สุดเสมอ พร้อมการพักเต็มที่ในพื้นที่ธรรมชาติแสนบริสุทธิ์ ถ้าเกิดได้กันดูสักหนึ่งครั้ง รับรองว่าคุณจะต้องติดใจอย่างแน่นอน